ชีวิตเจ้าสาวต่างชาติถูกซ้อม-ฆ่า
ไม่ชวนฝันเหมือนซีรีส์เกาหลี ซีเอ็นเอ็น รายงานเรื่องราวชีวิต “ตรินห์” สาวชาวเวียดนาม วัย 29 ปี แต่งงานกับ “ชิน” ชายเกาหลีใต้วัย 50 ปี หลังจากเจอหน้ากันเพียงวันเดียวผ่านนายหน้าหาคู่ และจัดงานวิวาห์ใน วันที่ 4 พ.ย. 2561 ที่เวียดนาม
จากนั้น ต่างคนต่างอยู่ประเทศตัวเอง จนกระทั่ง ตรินห์ย้ายมาอยู่ที่เมืองยังจูในเกาหลีใต้ หลังจากแต่งงาน 7 เดือน แต่เกิดปัญหา ตั้งแต่แรกเพราะ ทั้งคู่สื่อสารกันไม่ได้ ต่างคนต่างพูดภาษาตัวเอง และ มีใช้ชีวิตต่างกัน รวมทั้ง มีปัญหาการเงิน
ชีวิตเจ้าสาวต่างชาติถูกซ้อม-ฆ่า

หลังจาก ทนอยู่ด้วยกัน 3 เดือน ตรินห์บอกสามีว่าจะย้ายไปอยู่กับญาติอีกเมืองหนึ่งในเกาหลีใต้ แต่ชินห้ามไว้ ตรินห์จึงไม่พอใจ คว้ามีดทำครัวแทงเข้าที่ต้นขา
ส่วนชินคว้ามีดมาแทงภรรยา 10 ครั้งที่หน้าอกและท้องจนเสียชีวิต จากนั้น ห่อศพด้วยพลาสติก พร้อมกับเก็บ ข้าวของส่วนตัวของ ภรรยาเอาไปฝังในสวนพลับ ห่างจากบ้านในเมืองยังจู 200 กิโลเมตร
ล่าสุด เดือน เม.ย. 2563 ศาลพิพากษาจำคุกชิน 15 ปี ฐานฆาตกรรมภรรยา
นี่เป็นเพียงกรณีเดียวที่สะท้อนถึงชีวิตภรรยาชาวเวียดนามใน เกาหลีใต้
สาวเวียดนาม ส่วนใหญ่อายุน้อยและหวังว่าจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุข และ เก็บหอมรอมริบส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน
แต่ความจริงแล้ว หลายคนต้องเผชิญปัญหา ชีวิตต่างๆ นานา ไม่เว้นวัน เพราะเเรงกดดันจากรอบข้าง อีกมากมาย จนอาจทำให้เคียด ปวดหัว เลยเกิดการ ทำไปโดยที่ไม่ทัน ฉุก คิดก็เป็นไปได้

ผลการสำรวจของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติเกาหลีใต้ เมื่อปี 2560 ระบุว่า ภรรยาชาวต่างชาติกว่าร้อยละ 42 ถูกทำร้ายภายในบ้าน ทั้งทำร้ายรางกาย ทำร้ายด้วยคำพูด ปัญหาจากการมีความสัมพันธ์ทางเพศ และมีปากเสียงเกี่ยวกับเงิน เมื่อมีถูกทำร้าย ในบ้าน ฝ่ายภรรยาก็ไม่กล้าพูดเพราะอับอาย
ขณะที่หญิงชาวเกาหลีใต้ มีเพียงร้อยละ 29 เท่านั้นที่รายงานว่าประสบปัญหาเดียวกัน จากผลสำรวจของกระทรวงความเสมอภาคทาง เพศ และ ครอบครัวเมื่อปีที่แล้ว
เกาหลีใต้ประสบปัญหาประชากรหญิงและชายในชนบทไม่ สมดุล กันมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากหญิงสาวมักมุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อหางานทำและแต่งงาน ส่วนผู้ชายทำงานในที่ดินของครอบครัวและดูแลพ่อแม่ที่ แก่เฒ่า ด้วยความ กตัญญูู ตามหลัก คำสอน ของลัทธิขงจื๊อ

ทางการท้องถิ่นพยายามแก้ปัญหาตั้งแต่เกือบ 40 ปีก่อน โดยให้เงินอุดหนุนแก่นายหน้าหาคู่เพื่อจูงใจให้หาคู่มาจัดงานแต่งงานให้กับชายชาว เกาหลีใต้ เพื่อจะได้มี ลูก มาทดแทนประชากรสูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เจ้าสาวชาวเกาหลีใต้ไม่เพียงพอกับจำนวนชายโสด ในชนบท จึงต้องมองหาผู้หญิงต่างชาติ ทั้งฟิลิปปินส์ เวียดนามและกัมพูชา
ปี 2561 ชายเกาหลีใต้แต่งงานกับหญิงต่างชาติกับหญิงชาวเวียดนามกว่า 6,000คน รองลงมาเป็นหญิงจีน ประมาณ 3,600 คน และไทย ประมาณ 1,560 คน

เมื่อคิดเป็นอัตราส่วนจะเห็นว่าเจ้าสาวเวียดนามมีจำนวนมากที่สุดถึงร้อยละ 28 เพราะสาวเวียดนามต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น หวังว่าจะมีเงินทองใช้ และ ส่งเงินไปช่วยเหลือทางบ้าน
ด้านโครงการความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำสหประชาชาติ พบว่าหญิงสาวชาวเวียดนามตกเป็นเหยื่อถูกบังคับแต่งงานในหลายประเทศ รวมทั้ง เกาหลีใต้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของศูนย์เพื่อนผู้อพยพในเกาหลีใต้ แย้งว่าเจ้าสาวต่างชาติตกลงใจย้าย มา เกาหลีใต้ เองเพื่อส่งเงินให้ครอบครัวมากกว่าเห็นแก่ ประโยชน์ ส่วนตัว แต่ยอมรับว่าถูกเลือกปฏิบัติในครอบครัว ไม่ได้มีส่วนตัดสินใจ ภายในบ้าน แม้แต่ถูกแม่สามีตำหนิเรื่องทำอาหาร ไปจนถึงไม่ได้ รับเงิน ที่ขอจากสามี

ปัญหาดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับทั้งรัฐบาลเกาหลีใต้และ ประเทศในอาเซียน โดยเกาหลีใต้ออกกฎตั้งแต่ปี 2557 ให้ชาวเกาหลีใต้และคู่ สมรส ต้องสื่อสารกันได้และคู่สมรสต้องมีวีซ่า และเมื่อปี 2553 กัมพูชาเคยห้าม ไม่ให้ พลเมืองกัมพูชาแต่งงานกับชาวเกาหลีใต้เป็นการชั่วคราว
หากภรรยาชาวต่างชาติถูกสามีทำร้าย ก็สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ในเกาหลีใต้ตามลำพังต่อไปหรือไม่ แต่หากหย่ากันและไม่มีลูก ฝ่ายภรรยา ต้องกลับประเทศตัวเอง

เกาหลีใต้เป็นประเทศในอันดับต่ำสุดจากการจัดอันดับ ช่องว่าง ทางเพศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี ซึ่งเป็น ประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากมีความไม่เสมอภาคทางเพศใน ด้านการเมือง และ โอกาส การจ้างงานสำหรับผู้หญิง
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองการถูกเลือกปฏิบัติให้กับพลเมืองตัวเองอีกด้วย
////////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :