4 สิ่งที่ทำให้ หลงรัก เป๊ก-ผลิตโชค หรือ คุณหลวงเป๊ก
4 สิ่งที่ทำให้ หลงรัก เป๊ก-ผลิตโชค หรือ คุณหลวงเป๊ก

พื่อร่วมฉลองให้กับ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร หรือ ‘คุณหลวง’ ที่มีอายุครบ 37 ปีบริบูรณ์ในวันนี้ ขอพาทุกคนย้อนกลับไปชม7 สิ่งที่ทำให้ หลงรัก คุณหลวงเป๊ก มีความสำคัญและทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นมากที่สุดในเวลานี้
1 ความอดทนและพยายามที่ ‘ไม่มีใครรู้’
นอกจากภาพความขี้เล่น เป็นกันเอง บางครั้งก็ดูงงๆ แต่น่ารัก เป๊กได้ซ่อนความพยายามและอดทนอย่างสูงสุดเอาไว้อย่างมิดชิดชนิดที่แทบจะไม่มีใครรู้
เป๊กเริ่มต้นความฝันด้วยการเป็นศิลปินฝึกหัดที่ค่ายแกรมมี่ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 ทุกวันหลังเลิกเรียนประมาณ 4-5 โมงเย็น
เป๊กต้องนั่งรถฝ่าการจราจรจากสุขาภิบาล 3 เพื่อไปจนถึงตึกแกรมมี่บนถนนอโศกตอนประมาณ 2-3 ทุ่ม เริ่มเรียนร้องเพลงและเต้นจนถึงเที่ยงคืนจึงจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน และตื่นเช้าเพื่อไปโรงเรียนและทำกิจวัตรเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นเวลา 7 ปีเต็ม
ถ้าไม่นับช่วงที่เดบิวต์เป็นสมาชิกวง G-BOYZ ในช่วงสั้นๆ เป๊กก็แทบมองไม่เห็นอนาคตด้วยซ้ำว่าจะได้มีผลงานเป็นของตัวเองเมื่อไร
แต่เป๊กยังคงเดินอยู่บนถนนที่ไม่มีแสงไฟสาดส่องอย่างไม่เคยยอมแพ้ เหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“เพราะผมมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าผมต้องการอะไร ผมอยากเป็นนักร้อง ดังนั้นไม่ว่ากี่ปีที่ต้องพยายามหรือกี่ปีที่ต้องรอ ผมก็ทนได้”
ในที่สุดเป๊กก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ยืนยันประโยคที่ว่า
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ยังใช้ได้จริงเสมอ
วันหนึ่งโปรดิวเซอร์อย่าง ต๋อง-สุรพันธ์ จำลองกุล เข้ามาประชุมที่ตึกแกรมมี่ แล้วบังเอิญเห็นเป๊กวิ่งเล่นอยู่ เมื่อรู้ว่าเป็นศิลปินฝึกหัดก็บอกให้เป๊กร้องเพลงให้ฟัง จนทำให้ต๋องเห็นแววและเรียกมาทำสกรีนเทสต์
และให้เป๊กเป็นนักร้องไกด์ให้กับศิลปินคนอื่น แต่ทีมงานรู้สึกว่าเพลงนี้เหมาะกับเป๊ก จึงมอบโอกาสครั้งสำคัญให้ศิลปินฝึกหัดได้มีผลงานของตัวเองเป็นครั้งแรก
เพลงนั้นคือ ‘ไม่มีใครรู้’ ที่เป็นเหมือนสปอตไลต์ดวงแรก ส่องให้สองข้างทางที่เคยมืดสนิทมีแสงสว่าง แจ้งเกิดให้วงการเพลงไทยได้รู้จักศิลปินหน้าใหม่ที่ชื่อ ‘เป๊ก ผลิตโชค’
ในช่วงเรียนต่อระดับปริญญาตรี ปี 1 ที่สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เป๊กต้องเดินทางจากวิทยาเขตองครักษ์เพื่อมาอัดเพลงที่ตึกแกรมมี่ที่บางวันก็ลากยาวไปจนถึงตี 2-3 แล้วต้องตื่นเช้าไปเรียนตามปกติ
เพราะรู้ว่าโอกาสไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เป๊กยิ่งอดทน พยายาม ทุ่มเททุกอย่างในชีวิตเพื่อทำในสิ่งที่รัก
จนทำให้เกิดอัลบั้ม One ผลิตโชค อัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตที่มีเพลงฮิตอย่าง ใจหนึ่งก็รัก อีกใจก็เจ็บ, หรือแค่ขำขำ, รักคือรัก และ นิทานหิ่งห้อย ฯลฯ มาเป็นรางวัลตอบแทนความพยายามที่เขาอดทนมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี
และเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็น ‘ศิลปินเต็มตัว’ ที่ค่อยๆ สร้างเส้นทางและปรากฏการณ์มากมาย ก่อนที่จะกลายมาเป็น ‘คุณหลวงผลิต’ ผู้เป็นที่รักของแฟนคลับทุกคนในเวลาต่อมา
2 ปรากฏการณ์ของหน้ากากจิงโจ้ผู้ ‘ผลิตโชค’ ด้วยตัวเอง
ถ้าพล็อตกราฟชีวิตออกมาเป็นเส้น เราจะเห็นเส้นกราฟที่ชีวิตของเป๊กวิ่งพุ่งขึ้นสูงสุดและดิ่งลงต่ำสลับไปมาตลอดทุกช่วงเวลาในวงการบันเทิง
แต่ไม่ว่ากราฟชีวิตจะเป็นอย่างไร เป๊กก็ยังคือเป๊ก เด็กชายช่างฝันที่ไม่เคยหยุด ‘ผลิตโชค’ ของตัวเอง ยังใช้ความดื้อและความเอาแต่ใจไปขอร้องพี่ๆ ทีมงานในค่ายให้ยอมทำเพลงให้ เพราะอยากทำเพลงออกมาให้คนชอบมากที่สุด
“ผมลองจนรู้สึกอายแล้วที่เขาให้โอกาสแต่เราทำไม่ได้สักที แต่ก็ยังอยากทำ เพราะคิดว่าสักวันจะต้องทำให้คนชอบเพลงของเราให้ได้”
เป๊กพยายามอย่างไม่หยุดมาจนถึงช่วงที่ใกล้หมดสัญญากับค่ายแกรมมี่ในปี 2560 ระหว่างเตรียมแผนการไปเรียนต่อและออกผจญภัยหาเรื่องตื่นเต้นให้กับชีวิตที่ต่างประเทศ
ชายปริศนาในชุด ‘หน้ากากจิงโจ้’ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กลางตลาดนัดสวนจตุจักร มาพร้อมประโยคแนะนำตัวว่า
“ผมเกิดมาเพื่อเป็นซูเปอร์สตาร์ ไม่ว่าผมจะทำอะไร ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่ผมเสมอ”
ได้ปรากฏตัวขึ้นมาสร้างสีสันให้กับรายการ The Mask Singer Thailand ซีซัน 1 และขึ้นไปโชว์ท่าเต้นกวนๆ พลังเสียงบนกรู๊ฟสนุกๆ ในเพลง Love on Top ของบียอนเซ่
และลีลาตอบคำถามปั่นหัวกรรมการ ที่ถึงแม้จะแทบไม่มีใครได้เบาะแสจากคำใบ้ของเขา แต่ความสามารถ ความน่ารัก เสน่ห์แบบกวนๆ มึนๆ ได้ค่อยๆ เข้าไปอยู่ในหัวใจของกรรมการและคนดูทางบ้านเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากนั้นหน้ากากจิงโจ้ก็เดินหน้าส่งมอบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสะกดผู้คนด้วยน้ำเสียงและทักษะการร้องเพลงที่ทำให้คนทั้งทึ่งและสงสัยใคร่รู้ว่าคนที่อยู่ใต้หน้ากากนี้คือใครมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งจากเพลง How am I Supposed to Live Without You ที่ไม่ได้มาแค่การร้อง แต่ยังเซอร์วิสด้วยท่าเต้นดึงดาวและท่อนแรป ‘งงเด้ งงเด้’
ที่เริ่มต้นจากความงง แต่สามารถทำให้กรรมการทุกคนทั้ง โน้ต เชิญยิ้ม, ครูอ้วน มณีนุช, ตั๊ก ศิริพร, ไอซ์ อภิษฎา, ดีเจนุ้ย, หนึ่ง จักรวาร รวมทั้งพิธีกรอย่าง กันต์ กันตถาวร ลุกขึ้นมาแรป งงเด้ งงเด้ จนกลายเป็นสัญลักษณ์และอีกหนึ่งตำนานที่หน้ากากจิงโจ้สร้างเอาไว้
ถึงแม้ในวันนั้นจะพ่ายแพ้ให้กับหน้ากากทุเรียน หน้ากากจิงโจ้ต้องถอดหน้ากากที่ปิดบังตัวเองอยู่นาน และทันทีที่ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ถูกเปิดเผย ประวัติศาสตร์วงการบันเทิงไทยก็ต้องเริ่มจารึกตำนานบทใหม่ของ ‘เป๊ก ผลิตโชค’ นับตั้งแต่วันนั้น
3 ปรากฏการณ์ห้างแตกของศิลปินที่เคยมีคนฟังแค่ 10 คน
วันที่ 27 มีนาคม 2560 เป๊ก ผลิตโชค ที่เพิ่งถอดหน้ากากจิงโจ้ก็เริ่มสร้างปรากฏการณ์ ‘ห้างแตก’ ได้ตั้งแต่งานอีเวนต์แรก หลังจบจากรายการ The Mask Singer แค่ไม่กี่วัน
เป๊กเคยบอกว่าเขารับงานนี้เอาไว้ตั้งแต่รายการ The Mask Singer ยังไม่ออกอากาศ เขาคิดว่านี่คงจะเป็นงานเล็กๆ ที่มีคนดูไม่กี่คน รวมทั้งทีมผู้จัดงานก็ไม่คาดคิด จึงเตรียมพื้นที่เวทีเล็กๆ ในห้าง Zen เอาไว้
ปรากฏว่าพลังของหน้ากากจิงโจ้ทำให้มีแฟนคลับจำนวนมากมารอเจอเป๊กตั้งแต่ช่วงเช้า จนพื้นที่ลานของห้างเซ็นทรัลเวิลด์อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มาชูป้ายไฟ ‘ผลิตโชค’ แบบไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ปรากฏการณ์ ‘ห้างแตก’ ในวันนั้นทำให้เป๊กนึกย้อนไปถึงหลายๆ เหตุการณ์ในช่วงก่อนหน้าที่เขาเคยต้องร้องเพลงบนเวทีที่มีคนดูไม่ถึง 10 คน เดินไปพูดกับใครก็เดินหนีกันหมด
และนึกขอบคุณในความอดทนของตัวเองที่ยังร้องเพลงอย่างเต็มที่มาตลอด จนมาถึงวันที่มีคนจำนวนมากมารอฟังเขาร้องเพลงอีกครั้งด้วยความตั้งใจ ส่งเสียงกรี๊ด และร่วมร้องเพลงไปพร้อมกับเขาอย่างเต็มเสียง จนทำให้เขาสร้างปรากฏการณ์ห้างแตกได้แทบทุกครั้งที่ปรากฏตัว
4 ขนอม ขนอม ไลฟ์ในตำนานที่เปิดเผยตัวตนที่ทำให้คนยิ่งหลงรัก
หนึ่งในตัวตนที่แท้จริงที่เป๊กพูดถึงถูกเปิดเผยขึ้นมาจากคลิปไลฟ์ที่ตั้งชื่อว่า ขนอม ขนอม ในปี 2559 ก่อนที่ปรากฏการณ์หน้ากากจิงโจ้จะเริ่มขึ้นในปีต่อมา
เป็นช่วงที่เป๊กเพิ่งเสร็จจากงานอีเวนต์หนึ่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สวมรอยเป็น ‘คุณคิม’ ชื่อที่เป๊กใช้บ่อยๆ เวลาเดินทางเพื่อให้คนจำไม่ได้ ไปเที่ยวที่อำเภอขนอมตัวคนเดียว และไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับจำนวนหนึ่งตามปกติ
ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นคลิปธรรมดา แต่ด้วยเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติในช่วงเวลาที่กำลังเพลิดเพลินกับการยกเครื่องดื่มขึ้นจิบไปพร้อมๆ กับการออดอ้อนแฟนคลับให้กดไลก์ ส่งหัวใจ พูดคุยทักทายกับคนในบาร์อย่างเป็นกันเอง
และอวดกระต๊อบห้องพักราคา 800 บาทที่ไม่มีแอร์ ไม่มีน้ำอุ่น มีแค่เตียงกับมุ้งให้นอน พร้อมเปิดเผยความลับว่าเป๊กจะพกปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนไปด้วยเสมอเวลาไปเที่ยว แต่วันนี้ขอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ปูไม่ไหวแล้ว”
เป็นภาพน่ารักๆ ที่มาพร้อมกับความมึน อาจพูดจาวกวนไปบ้าง แต่นี่คือความเป็นธรรมชาติที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆ จากศิลปินคนอื่นๆ และมีคนจำนวนมากที่ย้อนกลับมาดูคลิปนี้ทีหลัง และยิ่งตกหลุมรัก ‘เฮีย’ คนนี้มากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคลิปที่สร้างความประทับใจให้แฟนคลับ โดยเฉพาะเวลาที่เป๊กออกไปเที่ยวต่างจังหวัด และมักจะออกไปร่วมงานสังสรรค์กับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง
และไม่พลาดที่จะออกไปโชว์สเตปแดนซ์ที่ฉีกทุกภาพจำของนักร้องสายอาร์แอนด์บี เรียกได้ว่าทั้งเพลงหมอลำ ลูกทุ่ง สามช่า หรือจะมาทางสายย่อ ก็ไม่เคยเป็นอุปสรรคในการเปิดฟลอร์ของผู้ชายคนนี้จริงๆ
บทความอื่นๆ เมื่อไป กินบุฟเฟต์ ต้องกินยังไงให้คุ้มที่สุด